top of page

Luang Prabang City Guide

รูปภาพนักเขียน: Suwapat PoolsapSuwapat Poolsap

อัปเดตเมื่อ 24 ส.ค. 2562

หลวงพระบางเป็นทริปที่เรากับครอบครัวตกลงกันแบบงงๆภายในไม่กี่นาที

เรามาอยู่ที่นี่5วัน หลายคนอาจจะงงว่าไปทำอะไรที่หลวงพระบางอย่างเดียวตั้ง5วัน

แต่สุดท้ายพอจบทริปเราก็ค้นพบว่าเราคิดถูกที่มาอยู่นาน

เพราะช่วงที่มาเป็นช่วงหน้าฝน มา 5 วัน ฝนตกไปแล้ว 4 วัน บันเทิงกันไป 55555

แต่หลวงพระบางก็มีอะไรให้ทำเยอะแยะเลย มาอยู่นานก็ไม่เบื่อ

ยิ่งสายกินหรือสายถ่ายรูปยิ่งไม่เบื่อเลยล่ะ



เข้าเรื่องเลยดีกว่า


พอมาถึงที่หลวงพระบาง ก่อนออกจากสนามบินสิ่งแรกที่แว้บเข้ามาในหัวเราคือต้องซื้อซิมก่อน

เราใช้ของ Lao Telecom ค่ะ เร็ว แรง ดี 4GB 200บาท แชร์4เครื่องเหลือๆ

ไม่รู้ถ้าไปซื้อในเมืองจะถูกกว่านี้ไหม แต่ก็ช่างเถอะ 55555



เรื่องที่พัก เราพักที่ 3 Nagas MGallery by Sofitel ทั้ง4คืนเลย สะดวกสบายมากๆ

มีรถรับ-ส่งสนามบินให้ ในรถที่นั่งมามีน้ำกับขนมให้กิน และมี Wifi ให้เล่นด้วย คือดี

และที่นี่ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวและร้านอาหารชื่อดังหลาย ๆ ร้าน



แล้วก็มีจักรยานให้ยืมไปปั่นเล่นรอบเมืองด้วย ระหว่างนั่งกรอกข้อมูลที่ Lobby ก็มี Welcome drink ให้คนละ 2 แก้วเล็ก ๆ แก้วนึงเป็นน้ำตะไคร้ อีกแก้วเป็นอะไรไม่รู้จำไม่ได้ 55555



มาดูห้องพักกันบ้าง



ห้องใหญ่เกินความคาดหมายมาก ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน

คือนอนสบายมาก ๆ ฝนตกออกไปไหนไม่ได้ก็นอนขดอยู่ในห้องนี่แหละ 55555



ผลไม้กับขนมเค้ามีให้ทุกวัน ซึ่งขนมในแต่ละวันก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆไม่ซ้ำกันเลย

ระเบียงห้องก็กว้างมากเช่นกัน มองลงไปก็จะเห็นสวนเล็ก ๆ ของโรงแรม สวยดี


เย็นวันแรกเราก็กินอาหารที่ร้านอาหารของโรงแรมนี่แหละ ขี้เกียจเดิน



อาหารโลคอลของที่นี่อร่อยมาก โดยเฉพาะไคแผ่น + แจ่วบอง อารมณ์เหมือนสาหร่ายทอดจิ้มน้ำพริก

ที่ในรูปมันดูเหี่ยวๆเพราะถ่ายรูปนานไปนิดนึง

อีกเมนูที่เราชอบมากคือ Ping Sine Kwai

ใช่ค่ะมันคือเนื้อควาย ซึ่งอร่อยมาก ไม่เหม็นและไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย

เนื้อควายมันจะคนละฟีลกับเนื้อวัว เนื้อวัวมันจะมีกลิ่นเฉพาะของมัน

อันนี้จะไม่ค่อยมีกลิ่น แบบแทบไม่มีเลย แต่ความอร่อยเลเวลเดียวกับเนื้อวัว งงไหม แต่ก็นั่นแหละ

ทีแรกพ่อแม่เราไม่กล้ากินเมนูนี้ เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวสั่งมากินคนเดียวก็ได้

พอได้ชิมกันเท่านั้นแหละ แปปเดียวเกลี้ยงจานค่ะ 55555

และทำให้เราตามหาแต่เมนูเนื้อควายในหลายๆวันถัดไปจบมื้อเย็นวันแรกแบบฟินๆ


ถ้าเป็นลูกค้าโรงแรมจะจ่ายค่าอาหารเลยหรือจะเซ็นไว้ก่อนแล้วค่อยจ่ายตอนเช็คเอ้าท์ก็ได้ค่ะ



มาพูดถึงอาหารเช้ากันบ้าง อาหารเช้าที่นี่มีทั้งแบบที่เป็นบุฟเฟ่ต์ให้ตักและแบบ À la carte ให้เลือกสั่ง



ตัวบุฟเฟ่ต์จะมีอาหารให้เลือกไม่เยอะมาก มีแค่ 2-3 อย่าง

จะเป็นพวกเบเกอรี่ซะส่วนใหญ่ เลยสั่งแยกเอาดีกว่า



เมนูที่เราชอบที่สุดคือแหนมข้าว กินทุกเช้าเลย 55555

ให้อารมณ์ประมาณข้าวเกรียบปากหม้อ/ก๋วยเตี๋ยวหลอดแบบไม่ราดน้ำ

เสิร์ฟมากับน้ำจิ้มรสออกหวานๆใส่ถั่วลิสงป่น อร่อยดี



ส่วนอาหารเช้าอื่น ๆ ก็จะประมาณนี้ ข้าวเปียกเส้นก็ดีอยู่นะ



ความเก๋อย่างนึงคือ 3 Nagas เป็นโรงแรมในเครือ Sofitel

ดังนั้นเราเลยสามารถไปใช้ Facilities ต่าง ๆ ที่โซฟิเทลได้ฟรี!!



ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส สระว่ายน้ำ หรือ Afternoon Tea ที่จะมีช่วง 4-5 โมงเย็น  ฟรีหมดจ้า

ตอนที่เราไปโซฟิเทลเราก็ขี่จักรยานจาก 3 Nagas ไปนี่แหละ ชิวดี

ไปถึงเค้าก็มาต้อนรับอย่างดี ก่อนกลับเค้าเห็นว่าจักรยานของเราเก่าแล้ว

เค้าก็บอกแล้วก็เอาไปเปลี่ยนคันใหม่มาให้เลย คือดีมาก ประทับใจ



มาถึง part เที่ยวบ้าง หลวงพระบางมีอะไรให้เดินเที่ยวเล่นเยอะมาก

เริ่มจากข้างๆที่พักเราก่อนเลยละกัน Heritage Shop by Ock Pop Tok



Ock Pop Tok อ่านว่าออกพบตกนะคะไม่ใช่อ๊อคพ๊อบต๊อค 55555

ที่นี่ก็จะมีสินค้าจากผ้าทอมือขาย สวยดี ข้างหน้ามีคาเฟ่เล็กๆให้นั่งชิวด้วย




เยื้องๆกับที่พักก็จะมีของออกพบตกอีกร้านนึง คือในเมืองจะมีอยู่ 2 สาขา

แล้วก็จะมีศูนย์เรียนรู้การทอผ้าที่จะออกไปจากตัวเมืองนิดนึง ถ้ามีเวลาก็ควรลองไปดูค่ะ



บรรยากาศในตัวเมืองหลวงพระบางก็จะประมาณนี้ คลาสสิคมากกกก ชอบ

เมฆฝนทำให้บรรยากาศโดยรอบดูทึมๆแต่ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ



ตรงท้ายๆตลาดมืดแถวหน้า Indigo จะมีขนมครกขาย กระทงละ 5,000 กีบ ก็ประมาณ 20 บาท

ของที่นี่จะหวานน้อยและไม่ได้มีความกรอบๆเหมือนของไทย แต่ก็อร่อยดีเหมือนกัน



ตรงจุดที่แม่น้ำโขงกับแม่น้ำคานตัดกันจะมีสวนสาธารณะเล็กๆอยู่

และจะมีบันไดให้เดินลงไปข้างล่างด้วย

แต่ช่วงที่เราไปมันเป็นช่วงหน้าฝน น้ำขึ้น เลยลงไปข้างล่างไม่ได้

และไม่มีสะพานไม้ข้ามแม่น้ำคานให้ถ่ายรูปด้วย น่าเสียดายมาก ๆ



แม่น้ำโขงจะสีออกแดง ๆ ส่วนแม่น้ำคานจะสีออกเขียว ๆ ไหลมาบรรจบกัน



ตรงริมแม่น้ำโขงจะมีภาพวาดขายด้วย จะมีเฉพาะวันที่อากาศดีเท่านั้น

คือสำหรับคนที่ไปช่วงที่ไม่ใช่หน้าฝนก็จะไม่ตื่นเต้นอะไร แต่สำหรับเรามันพิเศษมาก ๆ

เพราะเจอวันอากาศดีอยู่วันเดียวและมันเป็นวันสุดท้ายก่อนกลับ 55555

ปั่นจักรยานอยู่หันไปเห็นถึงกับรีบจอดถ่ายรูปเลย ชอบซีนนี้มาก


ที่หลวงพระบางมีคาเฟ่ ร้านกาแฟเก๋ ๆ ค่อนข้างเยอะ

ร้านกาแฟที่เราชอบที่สุดคือ Saffron Coffee อยู่ตรงถนนริมแม่น้ำโขง



ร้านสวย กาแฟดี ขนมอร่อย โดยเฉพาะชีสเค้กบราวนี่ เนื้อแน่นหนึบ เข้มข้นมาก



เรามาร้านนี้ 2 รอบเลย ติดใจ



ฝั่งตรงข้ามร้านจะมีที่นั่งที่ยื่นออกไปตรงริมแม่น้ำโขงด้วยนะ

เห็นฝรั่งชอบไปนั่งกัน ส่วนเราไปยืนถ่ายรูปแปปเดียวก็ร้อนแล้ว

ไปนั่งห้องแอร์ชั้น2ดีกว่า 55555


ร้านต่อไปที่อยากแนะนำคือ Joma Bakery Cafe



เบเกิ้ลที่นี่อร่อยมากจนอยากซื้อกลับบ้าน

เรากิน The New Yorker ไป2รอบ คืออร่อยมากกกก ดีมากกกกก



มันเป็นเบเกิ้ลที่สอดไส้ด้วยแฮม ไข่ ชีส และมายองเนส

ตัวเบเกิ้ลกรอบนอกนุ่มใน เนื้อสู้ฟันแต่ไม่เหนียวจนเกินไป



ส่วนกาแฟของที่นี่เราว่ายังเฉยๆนะJoma ในหลวงพระบางมี2สาขา คือตรงข้ามโรงแรม Azerai

และตรงถนนเลียบแม่น้ำคาน เราชอบสาขาตรงแม่น้ำคานมากกว่าเพราะคนน้อยดี


ร้านต่อมา Le Banneton อยู่ตรงถนนสักรินทร์



ร้านนี้ก็สวย แสงดี ถ่ายรูปขึ้นมาก

ครัวซองต์อร่อยและไม่แพงเลย


มาถึงร้านยอดฮิตกันบ้าง นั่นก็คือร้านกาแฟประชานิยม

คนเยอะแทบจะตลอดเวลาเลย



เราสั่งโจ๊ก ปาท่องโก๋ และกาแฟลาวมาลองชิม



โจ๊กกับปาท่องโก๋อร่อยดี แต่กาแฟไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่ มันหวานไปอะ 55555

แต่ราคาถูกดีค่ะ โจ๊ก 2 ชาม ปาท่องโก๋ 1 ชุด กาแฟลาว 1 แก้ว ทั้งหมดนี่ตีเป็นเงินไทยไม่ถึง 100 บาท


เปลี่ยนบรรยากาศจากอาหาร local กันบ้าง

ที่นี่จะมีร้านอาหารฝรั่งเศสที่อร่อยมากร้านนึง ชื่อว่า L'Elephant



ซึ่งราคาก็จะแรงนิดนึง สั่ง 4 อย่างหมดไป 2 พันกว่าบาท แต่เราว่าคุ้มมาก



ทีเด็ดคือ Lao Beef Steak กับ Lao Buffalo Steak คือดีมากกกก อร่อยจริงๆ

ทำให้รักในเนื้อควายไปอีกหลายสเต็ป 55555


ใกล้ๆกับร้านเมื่อสักครู่นี้ก็จะมีร้านอาหารอิตาเลี่ยน ชื่อว่า La Rosa อยู่เยื้องๆกันเลย



ร้านนี้ก็ดีมากเช่นกัน พิซซ่ากับสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าอร่อยมาก ราคาก็ถือว่าไม่แรง



พักเรื่องของกินแปป



วันที่ 4 ของทริปเราตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมาดูการตักบาตรข้าวเหนียว วันอื่น ๆ คือตื่น 8-9 โมงตลอด 55555

แต่มายืนดูกับถ่ายรูปเฉยๆไม่ได้ไปร่วมกับเค้าด้วย



ใครพักที่ 3 Nagas สามารถแจ้งที่ Front desk ได้ว่าเราอยากจะตักบาตรข้าวเหนียววันไหน

เค้าจะเตรียมของกับจัดที่นั่งให้ค่ะ


ระหว่างกำลังถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆเราก็หันไปเห็นช็อตนี้พอดี



น้องหมากำลังทำท่าเหมือนกราบพระ แล้วค้างท่านั้นอยู่นานมาก น่ารักสุด ๆ



วกกลับมาเรื่องกิน ข้างๆโรงแรมเรามีร้านขนมปังที่อร่อยมากอีกร้านนึง ชื่อว่าร้าน Zurich Bread 



ร้านนี้มีสาขาแรกอยู่ที่ภูเก็ต และเพิ่งมาเปิดที่หลวงพระบางได้ไม่นาน

มีขนมปังกับเบเกอรี่ให้เลือกเยอะแยะไปหมด มีโซนที่เป็นคาเฟ่ให้นั่งด้วย

พนักงานที่นี่น่ารัก อัธยาศัยดีทุกคน

มีอยู่วันนึงเราไปซื้อช่วงเย็น ๆ เขาบอกรออีกหน่อยไหมเดี๋ยวอีกสักแปปจะเป็นช่วง Happy hour

มีโปรโมชั่นสำหรับเบเกอรี่ เราก็โอเค รอก็ได้ เพื่อความคุ้มค่า 55555


ทริปนี้เราไม่ค่อยได้เข้าวัดเท่าไหร่ ไปแค่2วัดเอง

วัดเชียงทองคือหนึ่งในนั้น ตอนเราไปคนไม่ค่อยเยอะมาก



เสียค่าเข้า 20,000 กีบ

ก็สวยดี แต่ก็ไม่ได้ถ่ายอะไรมาเยอะเพราะแดดร้อนมาก 55555


ตรงหน้าวัดเชียงทองจะมีร้านข้าวเปียกเส้นอยู่ร้านนึง มีคนเข้ามากินเรื่อยๆเลย



ที่ร้านมีเมนูแทบจะทุกภาษา ใครมาก็ไม่งง 55555

ข้าวเปียกเส้นจะฟีลเหมือนก๋วยจั๊บญวณ (ไม่รู้ว่ามันคืออย่างเดียวกันรึเปล่า)

แต่น้ำซุปจะข้นๆกว่า กินคู่กับข้าวแต๋นแล้วดีงามมาก


มาถึงอีกร้านอาหารโลคอลที่เราชอบมากกกก เพ้อถึงตั้งแต่ตอนอยู่สนามบินยันกลับมาบ้าน

นั่นคือร้านส้มตำเจ๊ติ๋มนั่นเอง ร้านจะอยู่ตรงข้ามวัดหนองสีคูนเมือง



เมนูที่นี่มีให้เลือกไม่กี่อย่าง แค่ 1 หน้า A4 ไม่มีราคาบอกด้วย

แต่ก็สั่งกันมาจนเต็มโต๊ะ



เมนูที่ชอบที่สุดคือตำหลวงพระบาง เด็ดมากกกกก กอไก่ล้านตัว อันนี้เบิ้ล 2 จานเลย

ใครที่ชอบกินส้มตำจะต้องรักตำหลวงพระบางของเจ๊ติ๋มมาก ๆ



จุดเด่นคือเส้นมะละกอที่จะฝานบางๆเหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยวใหญ่ ไม่ได้สับเป็นเล็กๆแบบส้มตำทั่วไป



ไส้อั่วทอดก็อร่อย ไม่มันเลย ไก่ย่างก็ดี

และที่นี่ทำให้เราค้นพบว่า กินไข่เจียวกับข้าวเหนียวแล้วดีงามมาก 55555

รวมออกมาราคาแอบแรงไปนิดแต่คุ้มมาก ๆ ติดใจ อยากซื้อกลับบ้านเลย


อ่ะกลับมาเรื่องเที่ยว เรื่องกินเล่าครบทุกร้านเด็ดๆแล้ว อิอิ

ส่วนใหญ่คนที่มาหลวงพระบางก็ต้องนั่งเรือล่องแม่น้ำโขงใช่ไหม

ทีแรกเราว่าจะไม่ไป แต่แม่เราอยากไป และบอกว่ามีพาไปหมู่บ้านทอผ้าด้วยนะ

เลยอะ ๆ ไปก็ได้ เรื่องผ้าขอให้บอก 5555555



เค้ามีพาไป2ที่ คือหมู่บ้านทอผ้า แล้วก็วัดล่องคูนกับถ้ำคูหาสักกะลิน

เป็นที่ๆเราไม่ค่อยเจอคนรีวิวเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ก็จะไปถ้ำปากอูกัน


Ban Xang Khong เป็นหมู่บ้านทอผ้าและทำกระดาษสา



ซึ่งค่อนข้างผิดไปจากที่คิดไว้ในหัวเยอะเลย

คือมันไม่ได้คลาสสิคและมีมุมถ่ายรูปเยอะขนาดนั้น

นักท่องเที่ยวกรุ๊ปอื่นที่มาก็ทำท่างงๆเหมือนกัน 555555


การจะไปถ้ำคูหาสักกะลินได้คือต้องไปเสียค่าเข้าที่วัดล่องคูนก่อน



แล้วก็จะมีเด็กมานำทางให้ พร้อมกับเอาไฟฉายให้เรา

ก็เดินไปไม่ไกลเท่าไหร่ ขึ้นบันไดไปอีกนิดก็จะถึงทางเข้าแล้ว

ในถ้ำมืดมากและลื่นมาก ต้องเดินระวังนิดนึง

ข้างในก็จะมีพระพุทธรูปอยู่ตามมุมต่างๆ

เดินดูเสร็จก็เหนื่อยใช้ได้เลย เหงื่อท่วม 5555555


ออกนอกตัวเมืองกันสักนิดนึง


ใครมาหลวงพระบางส่วนใหญ่ก็จะต้องไปน้ำตกกวางสีกัน

ซึ่งเราเลือกที่จะให้โรงแรมติดต่อ Private Tour ให้ 1วันราคา50USต่อ3คน

รถนั่งสบายมากกกก ให้เค้าจอดแวะที่ไหนก็ได้ที่อยู่ในเส้นทางไปน้ำตก



ระหว่างทางไปน้ำตกก็จะมีหมู่บ้านม้ง มีผ้าทอ มีกระเป๋าขาย น่ารักดี


อีกซีนนึงที่ชอบมากระหว่างทางไปน้ำตกคือนาขั้นบันได



ของจริงสวยมากกกก สวยกว่าในรูปหลายเท่า

ถึงกับรีบบอกคนขับรถให้จอดถ่ายรูปเลย เค้าก็ดูแปลกใจที่เราตื่นเต้นกับวิวนี้มาก 55555


และแล้วก็มาถึงจุดไฮไลท์ของทริปนี้ น้ำตกกวางสีหรือที่เค้าเรียกกันว่าตาดกวางสี




สามารถเดินขึ้นไปได้ 2 ทาง แต่เราเลือกเดินทางที่มันผ่านศูนย์อนุรักษ์หมี

น้องๆน่ารักมากกกก ตัวกลมๆ ขนดูนุ่มฟูน่ากอด 55555


วิวระหว่างทางขึ้นก็จะประมาณนี้



ที่นี่ทางไม่ชันเลย เรียกได้ว่าง่ายสุดตั้งแต่เคยเดินขึ้นน้ำตกมา

ใครพาผู้ใหญ่ไปคือไม่ลำบากเลย เดินขึ้นไปได้สบาย ๆ


เดินไม่กี่อึดใจก็ถึงน้ำตกแล้ว คือสวยมากกกกก เห็นแล้วกรี๊ด



ถึงน้ำจะเป็นสีชาเย็นแต่ก็ยังสวยอยู่ ถ้ามาช่วงที่น้ำเป็นสีฟ้าคงสวยกว่านี้มาก ๆ

จุดถ่ายรูปน้ำตกที่สวยที่สุดก็คือตรงกลางสะพานนั่นแหละ

ไปยืนให้ละอองน้ำตีหน้าสักแปปก็สดชื่นไม่เบา 55555


และเราขอปิดท้ายการรีวิวหลวงพระบางด้วยนี่เลย


Utopia บาร์สุดฮิตที่มีทางเข้าลึกลับซับซ้อน



ที่นี่ไม่ใช่บาร์อย่างเดียว แต่เป็นที่ ๆ สามารถมานั่งชมวิว

จิบอะไรเย็น ๆ (ที่ไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์) ไปพลางๆได้

ที่นั่ง/นอนริมแม่น้ำวิวดีมากถึงมากที่สุด ฝรั่งมานั่งกันเพียบ

ถ้าใครจะมาแนะนำให้มาตั้งแต่ตอนแดดเปรี้ยง ๆ มาตอนพระอาทิตย์ใกล้ตกก็อย่างที่เห็นค่ะ ที่เต็ม

เราเลยถ่ายรูปเสร็จแล้วกลับเลย 555555




สรุปคือชอบทริปนี้มาก เหมือนได้มาพักผ่อนจริงๆ

กินดี นอนสบาย ไม่ได้คำนึงถึงการประหยัดงบเท่าไหร่ ฮาาา

หลวงพระบางเป็นเมืองที่ขี่จักรยานสนุกมาก คือขี่แล้วสบายใจ

ติดใจการปั่นจักรยานทัวร์คาเฟ่รอบเมืองสุด ๆ

เพราะคนที่นี่เค้าไม่ขับรถเร็วกัน ต่อให้เป็นสี่แยกที่วุ่นวายก็ไม่น่ากลัว

ถ้าขี่แถวบ้านนี่ไม่รู้จะโดนสอยไปเมื่อไหร่ 555555


ประทับใจไปหมดทุกอย่าง ที่พัก ที่เที่ยว อาหารการกิน

ที่นี่ใช้เงินไทยหรือเงิน US ได้หมด แต่เงินไทยก็จะเสียเปรียบนิดนึง แลกเป็นกีบจะดีกว่า

ไว้จะกลับไปอีกรอบแน่นอน จะไปขึ้นพระธาตุพูสี ไปลองร้านที่ยังไม่ได้ลอง ที่เที่ยวเด็ดๆที่พลาดไป

ดู 81 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


SUBSCRIBE VIA EMAIL

bottom of page