top of page

Vietnam 101: Da Nang - Hoi An

รูปภาพนักเขียน: Suwapat PoolsapSuwapat Poolsap

ดานังกับฮอยอันเป็น 2 เมืองที่เราไปแล้วชอบมาก น่ารักทั้งเมืองทั้งผู้คน

เรียกได้ว่านอกจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยและเสียงแตรแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าหงุดหงิดเลย 555555 ทริปนี้เราไปทั้งหมด 6 วัน ที่ไปนานเพราะไม่อยากรีบเที่ยว อยากมีเวลานอนขี้เกียจตอนบ่าย ๆ บ้าง



เริ่มจากโซนเมืองเก่าในฮอยอัน เมืองสีมัสตาร์ดสุดคิ้วท์ที่ไปอยู่ 3 วันยังรู้สึกว่าไม่พอ

มีร้านกาแฟ ร้านชา ร้านอาหารเก๋ ๆ และมิวเซียมแทบจะทุกตรอกซอกซอย เดินเที่ยวได้ทั้งวัน

มีอะไรให้ทำเยอะมาก ไม่ว่าจะเดินเล่นชมเมือง แวะช้อปปิ้งกระเป๋าสาน แวะชมพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ

นั่งจิบชา นั่งแช่เท้าสมุนไพรผ่อนคลายความเมื่อยล้า เรียนทำกาแฟดริปแบบเวียดนาม และอื่นๆอีกเพียบ

เอ๊ะนี่ฮอยอันหรือเมืองไทยประกันชีวิตกันแน่ 55555



ฮอยอันอยู่ห่างจากดานังประมาณ 30 นาที ไม่ไกลมาก นอนดานังแล้วมาเดินเล่นที่ฮอยอันก็ได้

แต่เราเลือกที่จะมาอยู่ฮอยอัน 3 วันเลย จะได้ไม่ต้องรีบเที่ยวมาก

เดินเช้า กินข้าวเที่ยง บ่ายกลับมานอนกลิ้ง เย็น ๆ ค่อยออกไปเดินอีกรอบได้ สบายสุด ๆ

ที่ฮอยอันเราพักที่ Long Life Riverside ใกล้สะพานข้ามไปอีกฝั่ง

ราคาถูก และห้องใหญ่มาก รู้สึกเหมือนมานอนบ้านญาติ



เมืองก็จะรายล้อมไปด้วยตึกสีเหลืองและโคมแบบนี้

ทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า Lantern Town ซึ่งตอนกลางคืนจะสวยมากกก


ที่แรกที่เราอยากไปมากในฮอยอันคือ Reaching Out Teahouse เป็นร้านชาที่บริการด้วยคนหูหนวก



แต่เราเดินไปผิด ไปโผล่ที่ Reaching Out Arts & Craft แทน ก็งงว่าเอ๊ะทำไมพนักงานไม่ได้หูหนวกล่ะ 555555

แล้วเค้าก็ให้แผนที่เล็กๆมาว่า Teahouse มันไปทางไหน



ร้านจริงต้องแบบนี้ พบว่ามันคือร้านที่เราเดินผ่านไปผ่านมาแต่ไม่ได้สังเกต

ในร้านค่อนข้างสงบอยู่ แต่ก็ได้ยินเสียงแตรจากข้างนอกเป็นระยะ ๆ อยู่ดี เหนือสิ่งอื่นใดคือชอบป้ายมาก "The beauty of Silence"



อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าเป็นร้านที่บริการด้วยคนหูหนวก

เพราะฉะนั้นก็จะสื่อสารกันผ่านภาษามือและตัวอักษรเท่านั้น

สั่งเครื่องดื่มและขนมผ่าน Order Sheet

ต้องการอะไรก็ชูบล็อกไม้ที่มีคำต่างๆหรือเขียนใส่กระดาษก็ได้ พนักงานที่นี่บริการดีมาก ถึงจะช้าไปหน่อยก็ตาม



เราสั่งเป็นเซ็ตชาพร้อมขนม แต่ละเซ็ตจะเลือกชาได้ 3 แบบ

แล้วก็จะมีขนมที่เหมาะกับชานั้น ๆ เสิร์ฟมาด้วย ชอบอันที่เป็นเหมือนมะพร้าวแก้ว อร่อยดี



ประเดิมมื้อแรกของทริปฮอยอันที่ร้าน Secret Garden Restaurant ที่ทางเข้าค่อนข้างลึกลับ

Secret สมชื่อมาก แต่บรรยากาศดีเลย



อันนี้เค้ามาเสิร์ฟก่อนอาหาร อารมณ์เหมือนน้ำส้มผสมสัปปะรด เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ



อาหารค่อนข้างอร่อยเลย ชอบทุกเมนู แต่ที่ชอบที่สุดคืออันที่เป็นทอด ๆ

จำไม่ได้ว่าอะไรทอด แต่ซอสอร่อยมากกก รองลงมาคือ Spring Rolls



กินเสร็จแล้วก็ออกไปเดินเล่นซะหน่อย มุมนี้คือดีมาก

ดีตรงมีน้องหมาก้าวขาติดเฟรมมาด้วย 55555 ที่นี่หมาเยอะมากค่ะ เชื่องด้วย



เดินเล่นดูวิถีชีวิตไปเรื่อย ๆ แล้วก็มาเจอกับร้านนี้



เป็นร้านขายน้ำดอกบัว กินแล้วสดชื่นมาก ไม่แพงด้วย

รสชาติเปรี้ยวอมหวานแอบมีเผ็ด ๆ ร้อนคอนิด ๆ เหมือนเวลากินน้ำขิง แต่ไม่ได้เผ็ดขนาดนั้นนะ แล้วความตลกคือพอเรายกกล้องขึ้นมาถ่ายหน้าร้าน ถ่ายไปสักพัก

ฝรั่งในร้านก็ยกกล้องตาม พอแชะเสร็จแล้วก็ขำกันเอง 555555555


มาถึงเวียดนามก็ต้องกินกาแฟเวียดนามสักหน่อย



ร้านแรกที่เรามาคือ Faifo Coffee เห็นคนมาที่นี่เยอะเลยมาตาม

ที่นี่เป็นโรงคั่วด้วยนะ ชั้นสองมีที่นั่งริมหน้าต่าง ซึ่งแสงดีมาก ส่วนชั้นสามก็เป็นจุดชมวิวที่ดีมาก



กาแฟเวียดนามมันก็จะเข้ม ๆ หน่อย เพราะหลัก ๆ ที่นี่เค้ากินโรบัสต้ากัน ตรงริมหน้าต่างแสงดีมาก มาแล้วได้รูปสวย ๆ ลงอินสตาแกรมแน่นอน



อันนี้วิวชั้นสาม ถ่ายมาได้แค่นี้เพราะเค้าถ่ายพรีเวดดิ้งกันอยู่ 55555



ร้านต่อมาคือ Hoi An Roastery ที่เวียดนามนอกจากดริปเวียดนามแล้วก็มีกาแฟใส่ไข่ที่ขึ้นชื่อ

เห็นว่าร้านนี้มีเลยแวะมาลอง รสชาติจะมัน ๆ แทบจะไม่มีกลิ่นคาวเลย อร่อยยยย



ส่วนร้านนี้เรายกให้เป็นไฮไลท์ของฮอยอันไปเลย เชื่อว่าทุกคนจะต้องชอบ

นั่นก็คือ Cocobana Tearoom เป็นอีกความชิลที่ไม่ควรพลาด

นั่งจิบชาเย็นๆพร้อมแช่เท้าในวันฝนพรำคือดีมาก

ในร้านมีของฝากขายด้วย เป็นพวกภาพเขียน เซรามิค ชาแบบต่างๆ ฯลฯ



หน้าตาใบเสร็จที่นี่ น่ารักไปอีก เป็นแบบปั้ม ๆ ว่าเราสั่งอะไรไปบ้าง

จะเห็นได้ว่าราคาไม่แรงเลย



ปกติเค้าจะให้มานั่งแช่เท้าตรงหลังร้าน

แต่ช่วงที่เราไปเค้ากำลังปรับปรุงอยู่เนื่องจากก่อนหน้านี้น้ำท่วม เลยได้นั่งในร้านแทน

เท้าใหญ่ไปนิดขออภัย



แช่เท้าอุ่น ๆ ไป ดูดชาเสาวรสเย็น ๆ ไป ฟินมาก



พอแช่เท้าเสร็จจู่ๆฝนก็กระหน่ำลงมาจนออกไปไหนไม่ได้ พี่ที่ร้านเลยชวนทำดริปเวียดนาม

ปกติมีค่าเรียนประมาณ15000ดอง ไม่แพงเลย แต่เราได้ทำฟรี เพราะเค้าบอกเค้าเป็นคนชวนเราเอง


อุปกรณ์ดริปที่นี่เป็นเซรามิก วิธีก็คือใส่กาแฟลงไป เทน้ำลงบนจานรอง

แล้วก็เอาไปวางให้กาแฟดูดซับน้ำ แล้วค่อยเทน้ำลงไปอีกที

นี่ก็เททีละนิด ๆๆ ไม่กล้าเทเยอะ กลัว 555555



ด้วยความที่ใจไม่แข็งพอจะซดโรบัสต้าเปล่า ๆ เพราะชิมแล้วมันเข้มมาก

เลยขอน้ำแข็งกับนมมาเจือจาง กลายเป็นลาเต้เย็น

พอแช่เท้าเสร็จก็เดินออกไปหาอะไรกินสักหน่อย ร้าน Bánh mì Phượng เป็นอีกร้านที่ไม่ควรพลาด



ที่นี่เป็นร้านบั๋นหมี่ที่คิวยาวมาก มั่วมาก ไปต่อคิวช่วงเป็นประจำเดือนอาจจะปรี๊ดแตกในใจแบบเราได้

แต่อร่อยจริง ชิ้นใหญ่มาก ถูกมาก เฉลี่ยแล้วคิดเป็นเงินไทยแค่ประมาณ 30 บาท

จนอยากมาสิงที่นี่เวลารู้สึกตัวเองจนๆ 555555



เอามาจัดให้ดูดีหน่อย ขนมปังสามสิบกว่าบาท แต่ซื้อรูทเบียร์เจ็ดสิบกว่าบาทมาเป็นพร็อบ

แล้วก็ไม่กิน นิสัยเสียมาก ๆ 555555 กระเป๋าสานในรูปซื้อจากร้านตรงแถว Faifo ถูกชะตากับทรงนี้แบบนี้มาก



แถวร้านบั๋นหมี่ก็จะมีร้านอาหารที่ราคาดีมาก จำชื่อร้านไม่ได้ พวกเฝอ สปริงโรลล์อร่อยเกินคาด



อันนี้ร้าน Nữ Eatery พี่ที่ร้าน Cocobana แนะนำมา ว่าอาหารร้านนี้ดี

ก็เลยตามมา เป็นร้านเล็ก ๆ ที่คิวทองมาก แต่มาแบบไม่จอง อย่างเปรี้ยว 55555

สุดท้ายก็รอนิดหน่อยก็ได้เข้าไปนั่งแล้ว ดวงดีใช้ได้ เมนูที่นี่มีไม่กี่อย่าง แต่อร่อยมาก ประทับใจ ทางเราก็สั่งของพื้นฐานอย่างสปริงโรลล์ และบันไส้หมูสามชั้น นอกเฟรมมีซุปมะเขือเทศเย็นอีก

แต่ที่เด็ดที่สุดคือข้าวหน้าไก่ในภาพที่สอง คือดีมากกกกก ชอบ

เครื่องเคียงเป็นโคลสลอว์ ด้านบนเดาว่าเป็นยำมะม่วง รสจะเปรี้ยวๆหน่อย

เห็นหน้าตาทีแรกนึกว่าอาหารเกาหลี พอกินไปเอ๊ะมันก็เกือบจะเกาหลีตรงไก่กับงา

แต่มันมีกลิ่นเครื่องเทศอ่อน ๆ ด้วย เอาเป็นว่าอร่อยแบบงง ๆ



Lantern town ยามค่ำคืน คนเยอะเชียวล่ะ



ทางเราได้ทำการสำรวจตลาดแถวที่พักยามค่ำคืน แล้วสะดุดตากับสิ่งนี้ มันคืออะไรไม่รู้ เหมือนเป็นพวกธัญพืช มีให้เลือกหลายแบบ ก็สั่งแบบ Mix มาเพราะไม่รู้จะเอาอะไรดี

ที่นั่งกินก็โลคอลมาก โต๊ะกับเก้าอี้เตี้ย ๆ เรื่องรสชาติก็ไม่แย่นะ แต่ไม่ถูกปากเราเท่าไหร่

สั่งมาลองเพราะแค่อยากรู้ว่าคนที่นี่เค้ากินอะไรกันเฉย ๆ 5555555


จบพาร์ทฮอยอันแบบไม่ได้ล่องเรือ ไม่ได้นั่งเรือกระด้ง และไม่ได้ลอยเทียนในแม่น้ำจนวันสุดท้าย



มาต่อกันที่พาร์ทดานัง เมืองที่มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเยอะมาก แบบไปที่ไหนก็เจอ

เมืองค่อนข้างจะโมเดิร์น เดินเล่นได้ทั้งวัน จะเดินในตัวเมือง ไปช้อปปิ้ง คาเฟ่ หรือเดินริมทะเลชิลๆก็ดี

แนะนำอาหารโลคอลอย่างแหนมเนืองและขนมเบื้องญวน และที่เด็ดสุดของดานังคือซีฟู้ดที่สดมากและอร่อยมากกกก จนคิดไว้ว่าจะรอตั๋ว 0 บาทเพื่อบินมากินซีฟู้ดที่นี่อีก 555555

และปิดท้ายด้วย Ba Na Hills หมู่บ้านฝรั่งเศสบนภูเขา ที่ทุกคนไปแล้วดี แต่เราไปแล้วเจอฝนตกหนักและหมอกลงจัดตลอด 2 วันที่อยู่บนนั้น หนาวมากและมองอะไรแทบไม่เห็นเลย

อีกอย่างหนึ่งที่นึกขึ้นมาได้คือ ไม่รู้ว่าที่อื่นในเวียดนามเป็นแบบนี้ไหม

แต่ที่ดานังถ้าแลกเงินตามร้านทองจะเรทดีกว่า

ต่อให้ร้านจะไม่มีป้าย Money / Currency exchange ก็เข้าไปแลกได้เลย



ถ้าเป็นช่วงที่อากาศดีๆก็จะมีคนลงไปเล่นน้ำกันเพียบ พร้อมกับเรือกระด้งเต็มริมหาดงี้

แต่ตอนเราไปก็นะ อย่างที่เห็น ได้แต่ยืนตากลมริมหาด

ที่ดานังเราพักที่ Hadana Boutique Hotel ห้องดี ราคาไม่แพง แต่ไกลแหล่งท่องเที่ยวไปนิด


ในเมื่ออากาศไม่เป็นใจก็เข้าเรื่องของกินเลยดีกว่า



The Garden ร้านอาหารริมทะเลธีมสีขาวคลีน ๆ คนเกาหลีมากันเยอะมาก

เมนูอาหารแต่ละอย่างของที่นี่ก็จะราคาแรงนิดนึง มีอาหารอิตาเลียน ซีฟู้ดต่าง ๆ สเต็กก็มีนะ ซึ่งริซอตโต้อร่อยมาก มาคลุกชีสให้ดูข้าง ๆ โต๊ะก่อนเสิร์ฟเลย

กุ้งย่างก็ดี ซีฟู้ดรวมมีหอย ปลาหมึก ปลากะพง ตัวน้ำราดจะออกจืด ๆ นิดนึง ไม่ประทับใจเท่าไหร่ มื้อนี้โดนไปประมาณล้านสองแสนดอง หรือประมาณพันหกนิด ๆ แพงสุดในทริปแล้ว



เมื่อยังกินซีฟู้ดได้ไม่สะใจเลยมาต่อที่ร้าน Hải sản Bé Mặn ร้านนี้สำหรับคนที่อยากกินอาหารทะเลแบบเยอะสะใจ สั่งทีเป็นโล

ซึ่งมีหลายสาขา แต่สาขาออริจินัลจะคนเยอะสุด สาขาอื่นจะสบาย ๆ แต่ไม่รู้รสชาติเหมือนกันไหมนะ มีให้เลือกเยอะมากกกก จะเอาอะไรและให้ไปปรุงแบบไหนบอกเค้าได้เลย

หรือจะเปิดรูปตรงโลเคชั่นในอินสตาแกรมก็ได้ว่าคนอื่นเค้าสั่งอะไรกัน อะไรน่ากิน

แล้วยื่นให้เค้าดูว่าจะเอาอันนี้ ครึ่งโล หนึ่งโลก็ว่ากันไป



เราสั่งหอยย่างกับกุ้งผัดซอสมะขามมา คืออร่อยมากกกกกก คือสดดึ๋งและไม่มีความแหยะเลย หอย1โลกับกุ้งครึ่งโล สนนราคาอยู่ที่ 470,000 ดอง ก็ประมาณ 600 กว่าบาท ดีอะ

เลยสั่งกุ้งผัดซอสมะขามมาอีกครึ่งโลมาแบ่งกันกินกับพ่อ 55555



ร้านต่อไปที่จะนำเสนอคือ Bánh Xèo Bà Dưỡng

คนเวียดนามที่เจอตอนลงลิฟท์ที่โรงแรมบอกร้านนี้เด็ดมาก เวรี่กู้ด ก็อะจัดไป ทีแรกหาร้านไม่เจอด้วยเพราะแท็กซี่มาส่งผิดซอย 55555

เป็นร้านแหนมเนืองที่คนเยอะมากกกก

ตัวแป้งของที่นี่จะบาง ๆ แห้ง ๆ และไม่ต้องชุบน้ำ (ไม่ได้ถ่ายมา) เป็นร้านที่งงตั้งแต่เดินเข้ามา งงว่านั่งตรงไหน งงว่าต้องสั่งอะไรบ้าง

งงว่ายังไม่ทันสั่งก็มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะแบบนี้เลย ผิดโต๊ะหรือเปล่าพี่

พออาหารมาเสิร์ฟก็กินไม่เป็น พยายามมองโต๊ะอื่นก็กินเสร็จกันหมดแล้ว ไม่มีใครกินให้ฉันดูเลยหรอ

จนคุณป้าโต๊ะข้าง ๆ สงสาร หันมาบอกวิธีกิน และเรียกพนักงานเสิร์ฟมาสอนให้ แง

วิธีกินจริง ๆ ก็คือเอาแผ่นแป้งแห้ง ๆ นั่นมา เอาเบื้องญวนวางลงไป

ใส่ผักตามชอบ ราดน้ำจิ้ม เอาแหนมเนืองวาง ม้วนๆแล้วรูดไม้ออก กิน สิ่งแรกที่คิดคือ ทำไมมันอร่อยขนาดนี้ แป้งก็แห้งบางเหมือนทิชชู่แต่ไม่ฝืดคอ

กินแบบใส่ทุกอย่างครบคือดีมาก สุดท้ายก็เบิ้ลอีกเซ็ต 555555 ผักกับน้ำจิ้มนี่เค้าเติมให้เรื่อย ๆ นะ แล้วก็อย่าลืมสั่งนมข้าวโพดด้วย เห็นคนเกาหลีโต๊ะเยื้อง ๆ กันสั่งเลยสั่งตาม อร่อยดีค่ะ เข้มข้นมาก


ต่อกันที่พาร์ทคาเฟ่อีกครั้ง



ร้านแรกคือ Cong Caphe มีหลายสาขามาก แมสมาก แต่มาเวียดนามทั้งทีก็อยากมาลอง

เข้าไปเจอชาวเกาหลี 80% ของทั้งร้านได้ และสิ่งที่ทุกคนสั่งคือกาแฟมะพร้าวปั่น



ชั้น 2 มุมนี้แสงดีมากกก แนะนำ แต่แบบต้องรอนิดนึงเพราะคนแน่นตลอด

ต้องคอยสังเกตว่าเค้าลุกเมื่อไหร่ก็ไปนั่งเลย



กาแฟมะพร้าวอร่อยสมคำร่ำลือมาก ๆ



The Coffee House ร้านนี้จะคนไม่เยอะมากเท่าไหร่ ชิลดี

อารมณ์แบบมานั่งทำงานยาวๆ ได้ พวกเครื่องดื่ม ขนมไรงี้ก็ไม่แพงเลย



ระหว่างกำลังเดินไปหาที่แลกเงินกับช้อปปิ้ง ก็เดินผ่านร้าน Original Cake กลิ่นหอมม๊ากกกกก

ได้กลับห้องมา 1 กล่อง



ถ้าใครชอบของสาน ๆ ต้องไม่พลาด

แถวร้านขนมปัง MI AA จะเป็นแหล่งรวมของสานและอุปกรณ์ทำการประมง

อยากให้เพื่อนประทับใจก็ซื้อกระเป๋าสานไปฝาก แต่ถ้าอยากให้เพื่อนจดจำก็ซื้ออวนไปฝากเลย 55555


ในส่วนของ Ba Na Hills ไม่มีอะไรพูดเยอะ เพราะบ้งมากอย่างที่ได้บอกไปในตอนต้น



ฝนตกหนักและหมอกลงจัดมาก ทุกคนใส่เสื้อกันฝนสีสันสดใส

รูปที่เอามาลงคือเพิ่ม Dehaze รัวๆแล้ว ไม่งั้นมองไม่เห็นอะไรเลย อุตส่าห์ขึ้นไปพัก Mercure ข้างบนเขา เพราะกะจะรอถ่ายตอนคนน้อย ๆ

สุดท้ายไม่ได้รูปเก๋ ๆ แบบที่คิดไว้เลย ออกไปเดินแปปเดียวก็หนาวจนทนไม่ได้ กลับมานอนขดในห้อง

ใครจะไปก็เลือกช่วงดี ๆ ก็แล้วกันค่ะ ตอนนั้นเราเลือกไม่ได้เพราะยังเรียนไม่จบ เวลาว่างมีจำกัดมาก

แต่นอกจากความบ้งแล้ว ก็ยังมีมิตรภาพดี ๆ ของผู้คนที่ได้พบเจอระหว่างทาง

ทำให้ไม่รู้สึกเสียดายเลยที่ได้มาทริปนี้ มีความสุขมาก ๆ เลย


"ดานัง - ฮอยอัน ฉันรักเธอ"

ดู 41 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Комментарии


SUBSCRIBE VIA EMAIL

bottom of page